Sunday, May 31, 2015

Chapter 8

สวัสดีนี่ Chapter 8 !
รอกันนานใช่มะ? 555555555

วันนี้ไม่มีรูปประกอบอ่ะ ท่ด

#ฟิคใต้ดินนซ

ไม่คอมเม้นต์ไม่ลงฟิคต่อนะเฟ้ย เฟ้ย เฟ้ย!!!!!
พูดจริงๆนะเฟ้ย ถ้าสนุกจริงๆ ต้องเม้นต์สิเหวย T w T )
นี่ไปนั่งแก้ใหม่แทบหมดเลย




Chapter 8


            เสียงเพลงคลาสสิคบรรเลงดังไปทั่วบาร์ มินโฮยังคงนอนหลับอยู่ที่หน้าบาร์อย่างนั้น ตอนนี้บาร์ของจีโฮก็เปิดมาได้ชั่วโมงกว่าๆ แล้ว ลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามา

            “เฮ้ย ไอ้มิโน มึงตื่นได้ล่ะ เข้าไปนอนหลังร้านไป ลูกค้าเริ่มเข้าแล้วมันดูไม่ดี” เมื่อตอนกลางวันใช้เวลานานพอควรในการสยบมินโฮให้เลิกโวยวายได้ เอะอะก็เอาแต่จะออกจากร้านแล้วไปฆ่าจุนฮเวให้ได้ ทั้งๆ ที่สภาพตัวเองก็เมามาก

            “อือ... กูขี้เกียจลุก มึงอุ้มกูไปดิ้”

            “ตัวเท่าควายกูยกไม่ไหวหรอก มานี่เลย” จีโฮค่อยๆ พยุงมินโฮให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่หลังร้าน เมื่อเขาออกมาจากหลังร้านก็เห็นซึงยุนเดินเข้ามาพอดี คนเป็นน้องเดินเข้ามาท่าทางอารมณ์ดีเพราะออกไปเที่ยวกับซึงฮุนสองคนมาทั้งวัน

            “อ้าวไอ้พี่โค่ วันนี้หน้าดูเหนื่อยๆ นะ”

            “มึงจะเรียกชื่อกูมึงก็เรียกซิโค่ดีๆ ไม่ได้เหรอวะ” จีโฮกลอกตาไปมา อีกชื่อหนึ่งที่พวกคนสนิทมักจะใช้เรียกจีโฮก็คือซิโค่ แม้กระทั่งมินโฮเองก็ยังเรียกเขาด้วยชื่อนี้

            “เออน่า ก็กูติดเรียกแบบนี้แล้วนี่หว่า”

            “เออ มึงไปดูเพื่อนมึงหลังร้านเลย ท่าจะหนัก” ซึงยุนขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะเดินเข้าไปที่หลังร้าน เจอมินโฮนอนแผ่อยู่ที่โซฟาเก่าๆ ตัวหนึ่ง เขาเอามือขึ้นมาบีบจมูกเพราะทั้งกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ติดอยู่เต็มตัวของมินโฮ

            “ไอ้มินโฮ โห...มึงเป็นไรมาเนี่ย กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว” ซึงยุนดึงแขนเพื่อนตัวเองให้ลุกขึ้นมาแล้วเข้าไปนั่งข้างๆ

            “มึง บุหรี่กูหมด ไปซื้อให้หน่อย”

            “มึงห่วงสภาพตัวเองตอนนี้ก่อนเถอะ บอกกูมาดิ้ว่ามึงเป็นไร”

            “ถามอยู่ได้ กูขี้เกียจตอบ กูจะกลับบ้านล่ะ” มินโฮลุกขึ้นมาท่าทางโซเซ เมื่อเดินไปข้างหน้าทีหนึ่งก็แทบจะล้มลงไปกับพื้น จนซึงยุนที่นั่งมองอยู่ต้องกุมขมับให้กับเพื่อนของตัวเอง เขาไม่เคยเห็นมินโฮเป็นแบบนี้มาก่อนเลย

            “มึงอยากโดนรถบรรทุกชนตายรึไง แล้วพ่อมึงง่ะ อยู่บ้านไม่ใช่ไง คืนนี้มึงนอนที่ร้านพี่โค่นี่แหละ” พูดจบก็เดินไปพยุงเพื่อนตัวเองให้ยืนขึ้นมาดีๆ แล้วพาเดินไปอีกห้องหนึ่ง




            “เริ่มดึกแล้วนะ กลับบ้านได้แล้วไป”

            “ยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ อย่าเพิ่งไล่กันดิ” แทฮยอนมองจุนฮเวที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงข้างๆ ตัวเอง เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนที่ตัวเองจะตั้งใจถ่ายเซลฟี่ต่อไปโดยไม่สนใจอีกคน “พี่นัม ผมนอนนี่ได้ปะ?”

            “ห้ะ ทำไมอ่ะ?”

            “ผมขี้เกียจกลับบ้าน”

            “แน่ใจเหรอ?”

            “แน่ดิ”

            “แล้วจะนอนตรงไหน?”

            “ก็นอนข้างๆ พี่นี่ไง” เขาลุกขึ้นนั่งกับเตียงแล้วดึงแทฮยอนเข้ามากอดแน่น “นึกถึงเราสองคนเมื่อก่อนเลยเนอะ” จุนฮเวซุกไหล่แทฮยอนแน่น คนเป็นพี่จึงเคาะหัวอีกคนไปแรงๆ

            “รีบๆ หาแฟนใหม่ได้แล้วนะนายอ่ะ” แทฮยอนหันไปยิ้มหวานให้อีกคน ส่วนจุนฮเวที่นั่งฟังอยู่ถึงกับเบะปากแล้วหันหน้าไปทางอื่น แทฮยอนเห็นแบบนั้นจึงเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “แล้วนี่ทำไมถึงไม่ติดต่อกันมาบ้างเลย”

            “ผมก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่นหมดน่ะแหละ พี่ก็น่าจะรู้ดี” แทฮยอนพยักหน้าเบาๆ แล้วค่อยๆ ดันอีกคนให้ออกไป “แล้วนี่จะไม่ให้ผมนอนด้วยใช่ไหม?”

            “ฉันให้นอน แต่ทำไมต้องนอนเตียงเดียวกันอ่ะ ไม่ใช่แฟนกันแล้วนะ”

            “ไม่ใช่แฟนกันก็ไม่เห็นเป็นไร หรือพี่ยังคิดอะไรกับผมอยู่ถึงไม่อยากให้นอนด้วยล่ะ?”

            “ไม่ได้คิดแล้วซะหน่อย ถ้างั้นอยากนอนก็แล้วแต่แล้วกัน หัดเป็นเด็กเอาแต่ใจตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” แทฮยอนจิ๊ปากก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปตัวเองต่อไป หารู้ไม่ว่าสิ่งที่แทฮยอนได้ตอบตกลงนั้นมันเข้าทางจุนฮเวเด็กจอมเจ้าเล่ห์คนนี้มากแค่ไหน

            ใช่...จุนฮเวยังชอบแทฮยอนและอยากจะกลับมาคืนดีกับแทฮยอน

            “ไปอาบน้ำไป๊ ตัวเหม็นแล้ว” แทฮยอนสะบัดมือไล่จุนฮเวก่อนที่ตัวเองจะเดินหนีไปที่เก้าอี้ตัวเล็กๆ ที่อยู่อีกมุมห้อง จุนฮเวนั่งมองแทฮยอนที่กำลังแกล้งทำเป็นไม่สนใจตัวเอง เมื่อรู้สึกว่ามีดวงตาคมกริบของเด็กหน้าโหดกำลังจ้องมองอยู่จึงละมือถือลงแล้วหันหน้าไปหา “จะอาบไม่อาบ? ไปสักทีสิ มานั่งจ้องฉันอยู่ได้ จ้องจนจะเป็นปลากัดกันอยู่ล่ะ” แทฮยอนทำท่าจะโยนโทรศัพท์ใส่อีกคน

            “โอเคๆ ผมไปก็ได้ ถ้าผมออกมาแล้วต้องมานั่งเป็นตุ๊กตาให้กอดด้วยรู้ไหม?”

            “ไปอาบเถอะน่า!” แทฮยอนโยนโทรศัพท์ที่อยู่กับมือใส่จุนฮเว แต่เขาหลบไปได้ก่อนจะรีบหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งปรู๊ดไปที่ห้องน้ำ โชคดีที่โทรศัพท์ของแทฮยอนมันเด้งอยู่บนเตียงแต่ไม่ได้เด้งหล่นลงไปที่พื้น เขาลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ที่แน่นิ่งอยู่บนเตียงแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ




            “มึงจะปล้ำกูเหรอวะซึงยุน... ไม่..ม่าย สเปคกู..ไม่ใช่แบบมึง อึ่ก”

            “โหสัด เมาล่ะเพ้อไปไกลนะ มึงเป็นอะไรเนี่ย นอนไปกับเตียงดีๆ ไม่ได้เหรอ?” ซึงยุนยืนกอดอกมองมินโฮที่นอนกลับหัวกลับหางแล้วห้อยหัวลงมาจากเตียงในสภาพพิศดารไม่เหมือนท่าคนนอน

            “น้องนัมของกูอยู่ไหนวะ..”

            “มึงนี่ไม่น่าเมาเล้ย กูล่ะสมเพชจริงๆ”

            “อือ...”

            “มึงจัดการตัวเองดีๆ นะ กูแวะมาเอาของที่ร้านเฉยๆ คืนนี้กูจะไปนอนกับแฟนกู บาย” พูดจบก็รีบเดินออกจากห้องนั้นทันทีโดยที่ไม่แม้แต่จะเหลียวมองเพื่อนของตัวเองที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียง



            “...”

            เมื่อซึงยุนออกมาได้สักพักมินโฮจึงค่อยๆ ขยับตัวไปมาพยายามควบคุมตัวเองถึงแม้จะยังไม่หายเมาแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ต้องลื่นลงจากเตียงลงไปนอนกับพื้น

            “อั่ก..” เขาส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ ก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นมานั่งกับพื้น มองไปที่หัวเตียงเห็นกุญแจรถของตัวเองวางไว้อยู่ มือหนาเอื้อมไปคว้ามันไว้ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเปิดประตูห้อง จากนั้นจึงเดินไปเปิดอีกประตูเพื่อออกไปสู่หน้าร้าน

            “ไอ้มิโน! มึงออกมาทำไมเนี่ย จีโฮที่เห็นมินโฮเดินออกมาในสภาพที่ดูไม่ได้จึงเดินเข้าไปหา แล้วดันอีกคนให้เข้าไปในประตูหลังร้านเหมือนเดิม

            “กูจะไปหาน้องนัม ไม่ต้องมายุ่ง” พูดจบก็พยายามเดินโซเซออกไป จีโฮมองรุ่นน้องที่กำลังเดินออกไปก่อนจะเดินไปหาพนักงานที่ร้านคนหนึ่งที่กำลังยืนเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าแคชเชียร์

            “เฮ้ย พี่ฝากดูร้านหน่อยนะ แล้วอีกประมาณสามสิบนาทีขับมอไซค์ออกไปรับพี่นะ เดี๋ยวจะโทรบอกทาง พนักงานคนนั้นพยักหน้าและรับคำของจีโฮมา ก่อนคนที่เป็นรุ่นพี่จะเดินตามมินโฮไปแล้วจับแขนอีกคนเอาไว้แน่น

            “เดี๋ยวกูขับรถไปส่งเหอะ เห็นสภาพมึงแล้วกูกลัวขับรถไปชนโน่นชนนี่”

            “แล้วมึงจะกลับมาที่ร้านยังไง?”

            “เออน่า กูบอกให้เด็กที่ร้านขับมอไซค์ตามไปรับ ไม่ต้องห่วง จีโฮคว้ากุญแจรถมาจากมือของมินโฮแล้วเดินนำไปยังลานจอดรถ “มึงบอกทางกูดีๆ แล้วกัน”




            จุนฮเวเดินเปลือยท่อนบนออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กอีกหนึ่งผืน เขามองไปบนเตียงเห็นแทฮยอนกำลังนอนหลับอยู่ ในมือถือโทรศัพท์เอาไว้ ดูแล้วคงจะหลับคาโทรศัพท์แน่ๆ จุนฮเวเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงข้างๆ แทฮยอน มือหนาค่อยๆ ไล้ไปตามโครงหน้าเรียวสวย เขานั่งจ้องใบหน้าสวยนั้นอยู่นานก่อนจะลากมือไปตามลำตัวของอีกคน

            “ฮืม.. เล่นบ้าอะไรของนายจุนฮเว ฉันจะนอน” แทฮยอนไม่ได้ละเมอแต่เขาพูดออกมาจริงๆ ร่างบางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองคนตรงหน้า “ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยไป ล่อนจ้อนอยู่ได้” มือบางยกขึ้นมาดันอกแกร่งไปเบาๆ

            “โห่.. เสียดายเลย ผมยืมชุดพี่ก่อนได้เปล่า?”

            “ไปเลือกเอาในตู้เองสิ”

            “อย่าลืมมาให้ผมนอนกอดนะ”

            “...ฮื่ม.. ไม่รู้ไม่ชี้เฟ้ย!” พูดจบก็หันหน้าไปทางอื่นแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองเอาไว้



            นี่ก็ปาไปเที่ยงคืนกว่าๆ แล้ว แทฮยอนไม่ยอมเปิดช่องว่างให้จุนฮเวได้ทำอะไรมั่งเลย ทั้งๆ ที่ตอนคบกันแทฮยอนก็ยอมเขาทุกอย่างแท้ๆ จุนฮเวคิดว่าที่แทฮยอนเป็นแบบนี้เพราะผู้ชายคนนั้นที่ชื่อซงมินโฮแน่ๆ

            จุนฮเวหันไปหาแทฮยอนที่นอนหันหลังให้ตัวเองอยู่

            “พี่นัม” จุนฮเวสะกิดแขนแทฮยอนเบาๆ “หลับเหรอ? ...ขอกอดนะ” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคน จุนฮเวจึงฉวยโอกาสนี้ในการดึงร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่นแล้วค่อยๆ หลับตาลง

            อย่างน้อยคืนนี้ก็ได้นอนกอดพี่นัม




            ติ๊งต่องๆๆๆๆๆๆๆๆ

            เสียงกดออดดังขึ้นรัวๆ ภายในห้องของงแทฮยอนยามดึก

            ติ๊งต่องๆๆๆๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆ!!

            ตามมาด้วยเสียงทุบประตูเสียงดัง

            “ตื่นสิโว้ย!! ตื่นโว้ย!!!”

            เสียงกดออดและเสียงทุบประตูดังไม่ขาดสายจนมีคนอื่นเปิดประตูห้องออกมาด่า แต่ก็โดนมินโฮที่กำลังขึ้นสวนกลับไปแรงกว่า

            แทฮยอนที่นอนอยู่ในห้องเริ่มรู้สึกตัวเหมือนมีเสียงโวยวายอยู่ข้างนอกจึงเดินออกไปที่หน้าประตูห้อง เมื่อได้ยินเป็นเสียงของมินโฮจึงตาสว่างทันทีแล้วรีบเปิดประตูออกมา แต่สิ่งแรกที่มาปะทะกับหน้าของเขาคือกลิ่นเหล้าที่รุนแรงและกลิ่นบุหรี่ที่ติดตัวอีกคน

            “พี่มิโน!” แทฮยอนมองมินโฮและผู้พักอาศัยคนอื่น

            “แฟนน้องเหรอ? ช่วยเอาเขาไปสงบปากทีนะ รำคาญ!”

            “มึงสิน่ารำคาญ!! ไฟท์ได้นะไฟท์ได้

            “พี่มิโน! พอได้แล้วน่า แทฮยอนดึงแขนมินโฮให้เข้ามาในห้องก่อนจะก้มหัวลงขอโทษขอโพยแล้วรีบเข้ามาในห้อง แทฮยอนมองไปที่มินโฮที่นอนกลับหัวกลับหางอยู่บนโซฟา ไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดีเพราะจุนฮเวเองก็นอนอยู่ในห้อง ร่างบางเดินเข้าไปสะกิดแขนอีกคน “ทำไมถึงดื่มเยอะขนาดนี้?”

            “เรื่องของพี่...” แทฮยอนกลอกตาไปมาแล้วถอนหายใจ

            “ถ้าตอบแบบนี้ก็นอนอยู่ตรงนี้เลยนะ” แทฮยอนลุกขึ้นทำท่าจะเดินไปแต่ก็โดนมินโฮคว้าแขนเอาไว้ก่อน

            “จะไปไหน.. ไปหาไอ้เด็กเวนั่นเหรอ พี่ไม่ให้ไป” พูดออกมาด้วยเสียงยานๆ แทฮยอนออกอาการตกใจนิดหน่อย ชักไม่แน่ใจว่ามินโฮรู้ว่าจุนฮเวนอนอยู่ในห้องจริงๆ หรือเขาแค่เมาแล้วคิดไปเอง

            “กะ ก็ดูพี่มิโนพูดกับนัมสิ”

            “ขอโทษ...”

            “ห้ะ?”

            “มานอนกับพี่ ตรงนี้” มินโฮปล่อยมือแทฮยอนแล้วพยายามพยุงตัวเองให้นอนหันหัวดีๆ แล้วเว้นที่ว่างบนโซฟาไว้ให้แทฮยอน “เร็วๆ”

            “แต่...แต่ว่า”

            “เร็วๆ” มินโฮเริ่มขึ้นเสียงใส่แทฮยอน

            แต่ว่าจุนฮเวกำลังนอนอยู่ในห้องนะ

            มินโฮดึงแทฮยอนให้เข้ามาข้างๆ ตัวเองแล้วกอดเอาไว้แน่น กะไม่ให้อีกคนหนีไปไหนได้ แทฮยอนไม่สามารถส่งเสียงดังโวยวายออกมาได้เพราะจุนฮเวที่นอนอยู่ในห้องอาจจะตื่น ได้แต่กัดริมฝีปากแน่นแล้วถอนหายใจออกมาอย่างแรง สุดท้ายก็ต้องยอมนอนนิ่งๆ ตรงนั้นข้างๆ มินโฮ



            มินโฮขมวดคิ้วทั้งๆ ที่กำลังหลับตาอยู่ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวไปมา แต่ก็ต้องหงายตึ้งไปกับพื้นทำให้เขาตาสว่างขึ้นมาทันที เขามองไปรอบๆ ตัวเอง

            ห้องของนัม

            ข้างบนโซฟาเห็นแทฮยอนกำลังนอนหลับอยู่ เสียงหายใจดังเป็นจังหวะเบาๆ มินโฮหันไปมองที่นาฬิกาบอกเวลาตีสี่กว่าๆ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องเซจนเกือบล้มเมื่อรู้สึกเวียนหน้าแล้วปวดจี๊ดที่หัว มือหนายกขึ้นมากุมหัวตัวเองก่อนจะเดินตรงไปยังห้องของแทฮยอนเพื่อจะไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ มินโฮค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปในห้อง เขาเห็นร่างของจุนฮเวกำลังนอนกอดหมอนข้างเอาไว้แน่นอยู่บนเตียง

            “ไอ้เด็กเว.. หึ คงจะมานอนที่นี่สินะ”

            มินโฮเดินเข้าไปในห้องน้ำเงียบๆ ไม่พูดอะไรต่อ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วมินโฮคงเดาได้ยากว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาจำได้ว่าเมามากแต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จีโฮรุ่นพี่ของเขาขับรถมาส่งที่คอนโดฯ นี้ จากนั้นเขาก็มีปากเสียงกับคนห้องอื่นแล้วนัมแทฮยอนก็เข้ามาห้ามแล้วพาเขาเข้าไปในห้อง

            มินโฮจ้องหน้าตัวเองในกระจกสักพักก่อนจะล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ จุนฮเวยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม เมื่อออกจากห้องนอนไปก็เห็นแทฮยอนกำลังนอนอยู่ในท่าเดิมเช่นเดียวกัน มินโฮแทรกตัวเข้าไปนอนในท่าเดิมแล้วจ้องใบหน้าของอีกคนในความมืดด้วยความหลงใหล ริมฝีปากบางขยับไปมาเบาๆ มินโฮรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่อยากจะขยับเข้าไปสัมผัสด้วยริมฝีปากของตัวเองมาก

            ร่างสูงค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ริมฝีปากของแทฮยอนก่อนจะงับริมฝีปากล่างแล้วดูดเม้มเบาๆ

            “อืม..” มินโฮผละหน้าออกมาก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจูบใหม่อีกรอบอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากเพื่อลิ้มรสความหวาน

            “ฮื้อ..” แทฮยอนละเมอส่งเสียงครางออกมาเบาๆ แล้วขยับตัวไปมาเล็กน้อย ยิ่งนานจูบก็ยิ่งดูดดื่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่มินโฮก็ต้องละจูบนั้นออกมาด้วยความเสียดายเพราะอีกฝ่ายเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจยังไงยังงั้น ไม่พอ ยังเปลี่ยนไปสูดดมกลิ่นหอมที่ซอกคอของอีกคน เหมือนอยู่ๆ ก็มีอารมณ์อยากปล้ำแทฮยอนตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทำไม่ได้ เพราะแทฮยอนต้องไม่พอใจแน่ๆ ถ้าเขาทำตรงนี้ จะทำไมล่ะ

            ก็จุนฮเวกำลังนอนอยู่ในห้องน่ะสิ

            มินโฮกอดแทฮยอนเอาไว้แน่นแล้วหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอีกรอบ




            มินโฮค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกรอบ รู้สึกว่าอาการปวดหัวจะดีขึ้นจากตอนที่ตื่นขึ้นมาครั้งแรกเป็นไหนๆ เมื่อหันไปข้างๆ ตัวเอง ก็เจอนัมแทฮยอนกำลังนั่งหันหลังให้ตัวเองอยู่ มือหนาค่อยๆ คว้าเอวบางเข้ามากอด อย่างน้อยตอนนี้เข้ารู้สึกโล่งใจมาก คิดว่าตอนนี้ตัวเองคงได้คืนดีกับแทฮยอนแล้ว

            “ตื่นเช้าจังเลย”

            “อะ เอ่อ..”

            “หิวอ่ะ ไม่ทำไข่ดาวให้พี่กินเหมือนทุกวันเหรอ?” มินโฮค่อยๆ พยุงให้ตัวเองลุกขึ้นนั่งกับโซฟาก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปซุกคออีกคน “ยังโกรธเหรอ?”

            “เปล่า...”

            “แล้วเป็นอะไร?” แทฮยอนค่อยๆ หันหน้ามาหามินโฮ

            “วันนี้ ห้ามทะเลาะกันอีกนะ ...นัมหมายถึง พี่มิโนกับจุนฮเวห้ามทะเลาะกันนะ” แทฮยอนทำสีหน้าจริงจังใส่มินโฮ และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแทฮยอนทำสีหน้าแบบนี้ใส่

            “เมื่อคืนนี้พี่ลุกไปเข้าห้องน้ำมา เห็นแล้วล่ะ”

            “สัญญานะว่าห้ามทะเลาะกัน”

            “พี่นัม...ทำไมไอ้แฟนตัวดำของพี่ถึงมาอยู่ในห้อง” จุนฮเวที่อยู่ๆ เดินออกมาจากห้องไม่รู้เมื่อไหร่พูดขึ้นขัดจังหวะบทสนทนาระหว่างแทฮยอนและมินโฮ ทันทีที่จุนฮเวพูดจบมันก็แทบจะทำให้มินโฮเดือดถึงขีดสุดอีกรอบ แต่แทฮยอนก็บีบแขนมินโฮเอาไว้แน่นเพื่อเป็นการเตือนสติ ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปหาจุนฮเว

            “อย่าเรียกพี่มิโนแบบนั้น ไม่เรียกเขาว่าพี่อย่างน้อยเรียกชื่อกันก็ยังดีนะ” แทฮยอนพยายามพูดโน้มน้าวจุนฮเว และพยายามสงบสติอารมณ์ของทั้งสองฝ่าย “ไหนลองเรียกชื่อกันดีๆ ซิ”

            “...”

            “จะเรียกไม่เรียก? ถ้าไม่มีใครเรียกก็ออกไปจากห้องทั้งสองคนเลยไป เห็นแล้วน่าหงุดหงิดจริงๆ” คราวนี้แทฮยอนเริ่มจะเป็นฝ่ายเดือดขึ้นมาบ้างแล้ว บางทีก็รำคาญที่ต้องมาสงบศึกสองคนนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของเขาเลย เห็นแบบนั้นจุนฮเวจึงถอนหายใจแล้วยอมเรียกชื่อของมิโนออกมาก่อน

            “ไอ้โน” เสียงห้าวๆ ห้วนๆ เปล่งออกมา แทบจะทำให้มินโฮอยากจะต่อยเด็กไม่รู้จักกาละเทศะตรงหน้า เพราะถึงจะไม่ถูกกันยังไงมินโฮก็เป็นพี่มากกว่าจุนฮเวตั้งสองถึงสามปี

            “ไร? ไอ้เด็กเว”

            “ใครเด็กวะ!?”

            “เอ้า ทีมึงยังเรียกกูไอ้ทั้งๆ ที่กูเป็นพี่มึงเลย”

            “ก็กูจะเรียกอ่ะ มีปัญหา?” ทั้งมินโฮและจุนฮเวเดินเข้ามาหากันท่าทางเอาเรื่อง แทฮยอนที่อยู่ตรงกลางจึงเป็นฝ่ายหยุดเอาไว้ก่อน

            “หยุด! หยุดเลย ห้ามทะเลาะกันนะ ห้ามทะเลาะ” แทฮยอนดันออกทั้งสองคนให้ออกห่างกัน “ให้ตายเถอะ ทำตัวเป็นเด็กๆ ทั้งพี่ทั้งน้องเลย บอกไปแล้วใช่ไหมว่าห้ามทะเลาะกัน ไปนั่งคนละฝั่งเลยนะเดี๋ยวจะไปทำอะไรมาให้กิน” แทฮยอนชี้ไปที่มุมโซฟาและมุมของโต๊ะนั่งเล่นอีกฝั่งของห้องก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว ปล่อยให้ศัตรูทั้งสองคนนั่งทำหน้าทำหน้าใส่กัน

            ทันทีที่ลับสายตาของแทฮยอนไปแล้วก็มีเสียงกระซิบเถียงกันอย่างดุเดือด

            “น้องนัมเมียกู อย่ายุ่ง” มินโฮผู้เป็นคนเปิดศึก เขาพยายามพูดเสียงให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ จุนฮเวที่นั่งอยู่ทางตรงข้ามก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน

            “เรื่องของกู ยังไงกูก็มาก่อนมึง” จุนฮเวเอามือชี้มาที่ตัวเองแล้วแสยะยิ้มสะใจใส่มินโฮ

            “เลิกกันไปแล้วอย่าเสือกดิวะ” คราวนี้มินโฮพูดออกมาเป็นเสียงธรรมดา หน้าตาเริ่มขึ้นสีกับคำพูดของจุนฮเว เพราะถึงยังไงตอนนี้มินโฮก็เป็นคนปัจจุบัน ไม่ได้เหมือนกับจุนฮเวที่เลิกกับนัมแทฮยอนไปแล้ว แต่แล้วแมวหูดีที่ทำอาหารอยู่ในครัวก็ได้ยินเสียงของทั้งสองคุยกันไปมาเบาๆ

            จุนฮเวนั่งมองมินโฮแล้วยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม ก่อนจะลุกขึ้นจากที่ตัวเองเดินมายืนตรงหน้าของมินโฮจากนั้นจึงก้มหน้าลงมาใกล้ๆ มินโฮพอให้อีกคนได้ยินเสียงของตัวเองได้ชัด

            “อย่างน้อย...ยังไงซะ กูก็เคยได้พี่นัมมาก่อนมึงล่ะวะ” มินโฮหยุดกึกกับคำพูดของจุนฮเวจนเขาไม่รู้ว่าสมควรจะตอบกลับไปว่าอย่างไร “สีหน้ายั่วๆ แบบนั้นทำให้สนุกเป็นบ้าเลยเนอะ” มินโฮกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น จะพูดอะไรก็ได้ แต่พูดแบบนี้มันทำให้มินโฮแทบคลั่งได้เลย

            “ไอ้เด็กเว!!!” มินโฮกระชากคอเสื้อของจุนฮเวอย่างแรงก่อนจะง้างมือขึ้นมาเตรียมจะต่อย

            “อะไร! อะไรกัน บอกว่าอะไรห้ะ!!” มินโฮหันหน้าไปหาแทฮยอนที่ยืนถือตะหลิวอยู่ จุนฮเวเองก็หันไปเช่นเดียวกันด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มสะใจ “ถ้าอยากจะทะเลาะกันก็ออกไปข้างนอกห้องทั้งสองคนเลยไป ห้องนี้ไม่ใช่สนามรบ”

            “ก็ดูมันพูดดิวะ”

            “อะไร อะไรกัน ผมพูดอะไรเหรอครับ...พี่มิโน”

            “หุบปาก!!” มินโฮหันไปตะคอกใส่จุนฮเว

            “พี่มิโนปล่อยจุนฮเวลง แล้วเข้ามานั่งรอในครัวกันทั้งสองคนเลย ห้ามพูดอะไรกันแม้แต่คำเดียว” มินโฮกำหมัดเอาไว้แน่น ตอนนี้เขาอยากจะระบายอารมณ์กับจุนฮเวมาก รู้สึกหงุดหงิดที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา แต่ทำยังไงได้เพราะเขาไม่อยากทะเลาะกับแทฮยอนอีกรอบ ถ้าทะเลาะกันอีกจุนฮเวคงได้ฉวยโอกาสแทฮยอนไปมากกว่านี้แน่ เขาจึงจำใจปล่อยจุนฮเวลงแล้วเดินชนไหล่เขาไปในครัว


            ตืด...ตืด..

            อยู่ๆ โทรศัพท์ของมินโฮก็สั่นขึ้นมาพอดีกับที่แทฮยอนยกอาหารมาเสิร์ฟให้เขากับจุนฮเว มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ที่หน้าจอขึ้นเป็นชื่อของคนเป็นพ่อก่อนจะกลั้นใจกดรับทั้งๆ ที่ไม่ได้เต็มใจเท่าไหร่

            “มิโน เป็นยังไงบ้าง? แล้วจะกลับบ้านเมื่อไหร่? ได้ไปก่อเรื่องอะไรรึเปล่า?”

            “อะไรเนี่ยป๊า ถามเป็นชุด ผมสบายดี...ไม่ได้ก่อเรื่อง” คำหลังๆ มินโฮพูดออกมาได้ไม่ค่อยเต็มปากนัก สายตาจ้องไปที่แทฮยอนและจุนฮเวที่กำลังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่จุนฮเวกลับแอบยิ้มขำๆ ออกมาเหมือนกำลังจะล้อเลียนมินโฮ แทฮยอนจึงเอื้อมมือไปตีแขนคนเป็นคนน้องทีนึง

            “โหย อะไรอ่ะพี่นัม” จุนฮเวพูดออกมาเต็มเสียงด้วยความจงใจ

            “เสียงใครน่ะ ไม่ใช่เสียงน้องนัมนี่ เพื่อนแกก็ไม่ใช่ อยู่ไหน?” มินโฮทำหน้าทำตาใส่จุนฮเว เขาไม่อยากลุกออกไปคุยที่อื่นเพราะถ้าลับสายตามินโฮเมื่อไหร่จุนฮเวต้องพยายามจะฉวยโอกาสแทฮยอนอีกแน่นอน

            “ผมอยู่ที่ห้องน้องนัมแหละป๊า เมื่อกี้เสียงทีวี”

            “ทำไมทีวีเรียกชื่อน้องนัม อย่ามาโกหกป๊านะ”

            “อะไรครับ ทีป๊ายังโกหกผมได้เลย ไม่มีอะไรแล้วผมวางนะครับ ขอให้มีความสุขกับเพื่อนของป๊าแล้วกัน ไม่ต้องมาห่วงอะไรผมหรอก”

            “นี่ มิ..”

            ติ้ด!

            มินโฮกดวางสายทันทีแล้วหยิบซ้อมกับมีดขึ้นมาหั่นไข่ดาว แทฮยอนที่นั่งอยู่ถึงกับเงียบ นอกจากจะทะเลาะกับเขาและยังทะเลาะกับพ่อของตัวเองอีก มินโฮคงจะอารมณ์ไม่ดีมากๆ แน่ๆ เมื่อวานนี้ เพราะเขารึเปล่านะ?

            “เอ่อะ.. ลืมเอาน้ำให้เลย..” แทฮยอนพูดขึ้นมาทำลายความเงียบแล้วเดินไปหยิบน้ำมาให้มินโฮและจุนฮเว แต่แล้วก็ต้องกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้งเพราะไม่ยอมมีใครพูดอะไรขึ้นมาเลย การควบคุมสถานการณ์แบบนี้มันช่างลำบากสำหรับนัมแทฮยอนจริงๆ “เออใช่! จุนฮเว เมื่อไหร่นายจะไปเรียนเนี่ย ใกล้เข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ”

            “น่า เดี๋ยวก็ไปเองแหละ ผมขี้เกียจนี่”

            “พี่มิโนก็เหมือนกัน ปกติเห็นชอบไปจังมหาลัยน่ะ ดะ เดี๋ยววันพรุ่งนี้ไปส่งนัมด้วยนะ

            “อือ โอเค”

            พูดอะไรกันมั่งสิฟะ!!

            “งะ งั้นกินกันไปก่อนนะ.. เดี๋ยวขอไปโทรหาพี่จินอูแป๊บนึง” พูดจบก็รีบเดินออกจากโต๊ะไปทันที แทฮยอนไม่สามารถทนอยู่ในสถานการณ์อึดอัดแบบนั้นได้จริงๆ มีแต่รังสีไม่ดีแผ่ออกมาอยู่ทั่วห้อง มือบางหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรหาพี่คนสนิททันที

            “งือ... ว่าไง”

            “ยังไม่ตื่นเหรอ?”

            “ตื่นตอนนัมโทรมานี่แหละ มีอะไรเหรอ?” แทฮยอนเดินวนไปวนมาแล้วเดินไปที่หน้ากระจกบานใหญ่เพื่อดูวิวข้างล่างคอนโดฯ

            “เปล่าหรอก มินโฮกับจุนฮเวอยู่ด้วยกันแล้วมันอึดอัดเลยเดินออกมาโทรหาพี่ไง”

            “รถไฟชนกันแล้วแหละนัม...”

            “จะบ้าเหรอ! นัมมีพี่มิโนคนเดียวนะ แทฮยอนพยายามพูดให้เสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ พลางหันไปมองด้านหลังเป็นช่วงๆ เพราะระแวงว่าสองคนนั้นอาจจะทะเลาะกันอีกเมื่อไหร่ก็ได้

            “คิๆ งั้นเหรอ? เอาน่า นัมต้องจัดการมันได้เหมือนกับพี่อยู่แล้ว อ๊ะ.. ซึงยุนอ่า อย่าจับตรงนั้นของพี่สิ” แทฮยอนทำหน้าเอือมออกมาทันที เขาคิดว่าเมื่อคืนนี้ซึงยุนคงไปที่บ้านของจินอูแน่ๆ

            “ผมก็หวังว่าอย่างนั้น”

            “ไปซะไปจัดการไป อ้าย! ซึงยุนอ่ะ อย่าเพิ่งสิ” จินอูหายไปจากสายสักพักก่อนจะกลับมา “แต่ตอนนี้พี่ขอไปจัดการเรื่องส่วนตัวแป๊บนึงนะ โชคดีล่ะ ฮื่อ~ บอกว่าให้อยู่นิ่งๆ ก่อนไง..” แทฮยอนกดวางสายแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

            “ถึงจะบอกว่าให้จัดการก็เถอะ ฉันเหนื่อยแล้วน้า” แทฮยอนขมวดคิ้วเบะปากอยู่คนเดียวหน้ากระจกบานใหญ่ และเริ่มมาตามด้วยเสียงเถียงกันที่ดังมาจากในห้องครัวอีกรอบ


- t a l k -
"นี่หรือคือชะตากรรมของนัมแท"
เย้ย นี่ไม่ใช่ฟิค 3P นะครัชนะ555555555555555
ขอโทษที่มาลงช้ามาก อย่าผิดหวังกันนะช่วงนี้ถ้าไม่มีเอ็นซี
อีก 4 วันไรท์ปิดเทอมล่ะนะค่าบ อิอิ
ยังก็อย่าลืมเม้นต์โดยใช้แท็ก #ฟิคใต้ดินนซ ด้วยหนา 
เม้นต์น้อยลงช้าครับ หรืออาจจะไม่ลง ที่จะบอกก็มีเท่านี้...


ตอนย่อย Chapter 8.1 Special KooNam
ไม่ดราม่านะครับตอนนี้แต่งเพื่อคนที่ชงกูนัมเท่านั้น















{ Tags: namsong, yoonwoo, hoonwoo, winner, jinwoo, taehyun,
minho, mino, seungyoon, seunghoon, nc, 20, fiction, fanfic, rate r,
เอ็นซี, นัมซง, ฮุนอู, ยุนอู, 3P. subterranean, ใต้ดิน, ฟิคใต้ดิน }

5 comments:

  1. น้องนัมกับพี่จินเนื้อหอมพอๆกันเลย สงสารซงมิอ่ะ จุนเฮวร้ายจริงๆลูก ทิ้งพี่เค้าไปพอเห็นคนอื่นมาแย่งแล้วอยากได้คืนหรอ ไม่ได้น๊า นยัมเป็นของซงมิแล้วน๊า

    ReplyDelete
  2. โอ้ยยย อ่านตอนนี้แล้วแอบหมั่นไส้จุนฮเวเบาๆๆ แถมยังพูดยั่วโมโหมิอีก 5555555 ไม่ได้นะ มิอย่ายอมนะ นัมต้องเป็นของมิเท่านั้นนนนน~ เราจะรอตอนต่อไปนะคะไรท์~ ><

    ReplyDelete
  3. ไรเตอร์ใจร้ายมาทำพี่มินโฮเมาได้ขนาดนี้ อยากจะพากลับบ้านตัวเองเหลือเกิน555555555555 เวนี้ตัดใจซะเถอะไปหาแฟนใหม่ไป มาอัพต่อเลยนะเว้นช่วงยาวๆมันใจจะขาดเหลือเกิน

    ReplyDelete
  4. ขัดใจไอคำว่า อ๊าย ทุกทีเลย
    มันฟิลลิ่งไหนนะ?
    แบบ อ่าา อ๊ะ???

    ReplyDelete
  5. จุนฮเวแกก็ร้ายจริงๆเลยย พี่มิตอนเมาเป็นหมานี่ก็ฮาไปนะ 555555555555555555

    ReplyDelete