Wednesday, April 29, 2015

Chapter 6

รูปนัมประกอบในฟิคจ๊า -..-
จะได้มโนกันถูก ถถถถถถถถถถถ

แท็กฟิคโว้ย #ฟิคใต้ดินนซ ใช้ด้วยโว้ย

{ พวกเธอน่ะ -_- อ่านเอ็นซีกันจนเลี่ยนหรือขี้เกียจเม้นต์ยะ
ตอนที่แล้วลงไปสองตอน Chapter 4 & 5
คนรีเยอะมากนะ ... แต่คนเม้นต์น้อยกว่าสองสามตอนแรกอีก 
เกิดไรขึ้น? เอียนเอ็นซีกันแล้วใช่ป่ะ? -.- }



Chapter 6


            นี่ก็เข้าอาทิตย์ที่สองแล้วที่มินโฮและแทฮยอนอยู่ด้วยกันมา มีบ้างที่มินโฮกลับไปหาพ่อและน้องสาวที่บ้าน เพราะแน่นอนว่าเขาเป็นคนรักครอบครัว ส่วนตอนอยู่คอนโดฯ ก็ทำอะไรกันแบบที่เคยทำค่อนข้างบ่อย แต่จากที่ทำเป็นไลฟ์ก็เริ่มถ่ายคลิปไว้ก่อนแล้วเอาไปลงทีหลังบ้างแบบนี้อยู่บ่อยครั้งจนมินโฮเริ่มชินกับมันเข้าให้แล้ว แต่เขาไม่ได้รู้สึกเบื่อในตัวเด็กคนนี้เลย กลับกัน ยิ่งอยู่กับแทฮยอนมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งสนิทสนมและมีความหึงหวงมากขึ้นเท่านั้น

            “พี่มิโน คืนนี้ออกไปเที่ยวกันไหม?”

            “ไปไหนล่ะ?”

            “ไม่รู้สิ เที่ยวไปเรื่อย เที่ยวกลางคืน”

            “ไม่เอาอ่ะ”

            “ทำไมอ่า?”

            “ก็นัมชอบไปอ่อยคนอื่น”

            “โธ่ พี่มิโนอ่ะ นัมอยากออกไปเที่ยวกับพี่มิโน นะๆ” แทฮยอนเข้าไปกอดแขนมินโฮเอาไว้แน่น “นัมจะไม่อ่อยใครเลย สัญญา” มินโฮทำท่าเหมือนจะไม่สนใจแทฮยอนจึงเขย่าแขนแกร่งเบาๆ จนสุดท้ายมินโฮก็ถอนหายใจออกมาแล้วพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับ

            “เฮ้อ ก็ได้ๆ แต่สัญญาว่าจะไม่ไปอ่อยใครเหมือนคราวที่ผ่านๆ มาอีกนะ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่แทฮยอนกลับไม่ได้ฟังเลย เขาเอาแต่ยิ้มร่าแล้ววิ่งเข้าไปในห้องเพื่อไปหาชุดเปลี่ยนทันที มินโฮได้แต่ส่ายหน้าไปมา

            “พี่มิโน มาช่วยนัมเลือกชุดหน่อยสิ!” เสียงนัมแทฮยอนตะโกนมาจากในห้อง มินโฮจึงเดินตามเข้าไปเจอร่างบางกำลังถือเสื้อไว้สองตัวคนละมือ เสื้อกล้ามสีดำและเสื้อสีขาวแขนกุด “ตัวไหนดี?”

            มันก็ดูโป๊ๆ เท่ากันล่ะวะ

            “สีขาว”

            “ไม่เอาอ่ะ นัมชอบสีดำ เอาสีดำดีกว่า”

            “มันไม่ดูโชว์ไปหน่อยเหรอ?” แทฮยอนหันไปมองมินโฮแล้วมุ่ยหน้า “โอเคๆ งั้นใส่เสื้อคลุมทับไปด้วยอีกชั้น โอเคไหม?”

            “พี่มิโนอ่า!”

            “ข้างนอกมันหนาวนะ พี่ถึงบอกให้ใส่เสื้อคลุมไปไง” มินโฮทำเป็นอ้างเรื่องนู้นเรื่องนี้ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาหวงแทฮยอนไม่อยากให้ใครมามองของๆ ตัวเองต่างหาก




            “นัมอยากออกมาเที่ยวทำไมต้องชวนพี่ออกมาด้วยล่ะ มาคนเดียวก็ได้นี่” ระว่างทางมินโฮขับรถไปตามทางที่แทฮยอนบอก

            “ก็อยากมาเที่ยวเหมือนแฟนคู่อื่นบ้าง”

            มีคนไม่โสดที่ไหนเขาไปเที่ยวผับกับแฟนกันมั่งล่ะ เฮ้อ

            แต่เมื่อขับรถไปได้สักพักมินโฮก็รู้สึกว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางไปผับอย่างที่เขาคิด บางทีอาจจะเป็นผับอื่นที่แทฮยอนอยากลองไปก็ได้

            “เลี้ยวเข้าไปตรงนั้นอ่ะแล้วไปหาที่จอดรถ” แทฮยอนชี้ไปที่ๆ หนึ่งที่มีแสงไฟสาดส่องตลอดเวลา และมันดูไม่เหมือนผับเลยสักนิด มินโฮเลี้ยวรถเข้าไปจอดตามที่แทฮยอนสั่ง เขารู้สึกเอะใจแปลกๆ เมื่อที่นี่ไม่ใช่ผับ แต่เป็นตลาดอีแทวอน

            “จอดรถทำไม...เรายังไม่ถึงเลยนะ”

            “ถึงอะไร? ก็ที่นี่ไง ตลาดอีแทวอน พี่มิโนคิดว่านัมจะไปที่ไหนเนี่ย?”

            อย่างน้อยเขาก็โล่งใจที่ไม่ใช่ผับ

            “เอ่อ.. เปล่าๆ” แทฮยอนถอนหายใจออกมาก่อนจะเปิดประตูรถแล้วลงไป ตามด้วยมินโฮ “มาที่นี่แล้วนัมจะมาซื้ออะไร?”

            “ก็เดินดูของไปเรื่อยๆ ไง พี่มิโนไม่ชอบเหรอ?” มินโฮส่ายหน้าเบาๆ แทฮยอนยิ้มกว้างก่อนจะจูงมือมินโฮไปที่ร้านเหล้าร้านหนึ่ง “รออยู่หน้าร้านนะ อย่าไปไหน” พูดจบก็เดินหายเข้าไปในร้านเหล้าทันที มินโฮพยักหน้าแล้วยืนรอ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่น

            “นี่!!” มินโฮสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ แทฮยอนก็ออกมาจากร้านเหล้าไม่ให้ซุ่มให้เสียงแถมยังเรียกเสียงดังอีกต่างหาก “อย่าเล่นโทรศัพท์ตอนออกมาเที่ยวด้วยกันสิ มันเสียบรรยากาศนะ” แทฮยอนเบะปากใส่มินโฮ เมื่อมินโฮเงยหน้าจากโทรศัพท์มามองแทฮยอนก็เห็นอีกคนรวบผมแสกกลางข้างหน้าให้มันไปอยู่ด้านหลัง ตอนนี้มินโฮพูดได้เต็มปากเลยว่า

            “น่ารัก”

            “ห้ะ? อ๋อ ได้จุกนี้อ่ะนะ ฮ่าๆ วันนี้ชิวๆ ก็เลยมัดผมแบบนี้ได้ไง อ๊ะ นี่โซจู เดินดื่มไประหว่างทางจะได้ไม่เซ็ง” แทฮยอนยิ้มหวานให้มินโฮก่อนจะยื่นขวดโซจูให้มินโฮ ร่างสูงค่อยๆ ยื่นมือไปรับทั้งๆ ที่สายตายังจดจ้องอยู่ที่เด็กน้อยแทฮยอนแสนน่ารัก

            แทฮยอนมีหลายๆ มุมที่มินโฮไม่เคยเห็นมาก่อน อยู่ด้วยกันมาสองอาทิตย์กว่าๆ เขาก็ได้เห็นมุมต่างๆ ของแทฮยอน ไม่ว่าจะเป็นมุมน่ารัก หวานแหวว ซุ่มซ่าม บางทีสวมบทเด็กเรียนเลยก็มี ช่วงเวลาแบบนั้นมันทำให้เขาลืมนัมแทฮยอนคนขี้ยั่วขี้อ่อยไปได้ชั่วขณะเลย

            “เลิกมองได้แล้วน่า! เขินนะ” แทฮยอนพองแก้มก่อนจะดึงแขนมินโฮให้เดินต่อไปด้วยกัน “คนเยอะจังเลยแฮะ ระวังหลงกันนะ จับมือกันไว้แน่นๆ ล่ะ” มินโฮยิ้มบางๆ ออกมาก่อนจะเดินตามแทฮยอนไปตามร้านต่างๆ และวันนี้เขาก็เพิ่งสังเกตว่าแทฮยอนเป็นเด็กที่กินเยอะเป็นพิเศษ เพราะส่วนมากแล้วจะชอบแวะแต่ร้านของกินทั้งนั้น


            “ไอศครีมได้แล้วค่ะ”

            “เย้ น่ากินจังเลย” แทฮยอนกระโดดไปรับไอศครีมเหมือนกับเด็กน้อยกำลังได้ขนม แต่ตอนนี้ในมือของมินโฮเต็มไปด้วยถุงจากการที่แทฮยอนไปช้อปปิ้งตามร้านต่างๆ “ไปกันเถอะ”

            “นัมเดินไปก่อนได้ไหม? ของเยอะแบบนี้พี่ว่าพี่เอาไปเก็บในรถก่อนดีกว่านะ”

            “โอ๊ะ ได้สิ งั้นเดี๋ยวนัมเดินไปแถวๆ โน้นนะ รีบๆ ตามมาล่ะ” พูดจบก็เดินเลียไอศครีมไปคนเดียวโดยไม่ได้สนใจมินโฮที่ยืนถือของเยอะๆ อยู่ข้างหลัง

            จริงๆ เลยนะเด็กคนนี้

           
            แทฮยอนเดินมาจนถึงร้านที่ขายเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ จึงเข้าไปดู ร่างสูงเดินไล่ดูพวกตุ้มหู กำไล หรือสร้อยคอ ไปเรื่อยๆ จนไปยืนหยุดอยู่ตรงที่ตั้งโชว์พวกแว่น

            “เอ่อ.. ขอโทษนะครับ ช่วยหยิบแว่นอันนั้นให้หน่อยได้ไหม?” แทฮยอนบอกผู้ชายคนข้างๆ ก่อนจะชี้ไปที่แว่นที่อยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเขา

            “อ่อ โอเคครับ” เมื่อผู้ชายคนข้างๆ หยิบแว่นแล้วหันมาทางแทฮยอนก็ตาโตกับสิ่งที่ตัวเองเห็นตรงหน้า “พี่นัม!” เขาตะโกนออกมากลางร้านจนคนหันมามอง แทฮยอนเองก็ตกใจแต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าตัวเองก็ไม่ได้ต่างอะไรเช่นกัน

            “จุนฮเว!”




            “ไอ้นั่นมันเป็นใครอ่ะ ผมยังไม่เห็นพี่เคยถ่ายคลิปกับผู้ชายคนไหนลงบล็อกตัวเองยกเว้นพี่จินอูเลย”

            “อย่าเรียกแบบนั้นสิ ก็คนนั้นแฟนใหม่ฉันไงล่ะ” เด็กที่ถูกเรียกว่าจุนฮเวเบะปากใส่แทฮยอน ก่อนจะดึงแทฮยอนเข้ามาเดินโอบไหล่ “นี่ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย” แทฮยอนดิ้นทำท่าจะแกะอีกคนออก

            “เอาน่า ก็คนมันคิดถึงนี่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

            “เหรอ? ก็จริงนะ ตั้งหลายเดือนแล้วไม่ได้เจอกัน” ในที่สุดแทฮยอนก็ยอมปล่อยให้รุ่นน้องคนนี้เดินโอบไหล่ตัวเองไป จนตอนนี้เขาลืมมินโฮที่กำลังเดินตามหาเขาไปสนิทเลย

            “พี่ ผมขอเบอร์พี่ใหม่หน่อยดิ พอดีว่าผมเปลี่ยนเบอร์อ่ะ” จุนฮเวหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาแล้วยื่นให้กับแทฮยอน มือบางรับไปก่อนจะก้มหน้าลงกดเบอร์ตัวเองจากนั้นจึงยื่นโทรศัพท์ให้คืน จุนฮเวรับโทรศัพท์ไปแล้วกดโทรออกหาแทฮยอน “นี่เบอร์ผมนะ”

            “อื้อ แล้วนายล่ะ มีแฟนใหม่ยัง?” จุนฮเวส่ายหน้าไปมา “ก็ชอบไปทำหน้าโหดใส่คนอื่นอยู่เรื่อยเลยนี่ ยังไม่มีแฟนก็ไม่แปลกหรอก คิๆ”

            “โห อะไร..ไม่ใช่ซะหน่อย ผมนี่คนช่างเลือกนะเว้ย ไม่สวยพอผมไม่เอาหรอก โด่ว” รุ่นน้องพูดโอ้อวดก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มนิ่มของแทฮยอนด้วยความหมันเขี้ยวตามความเคยชินของตัวเอง


            ในด้านของมินโฮที่กำลังเดินตามหาแทฮยอนอยู่ตามร้านต่างๆ ก็ไม่เจอ โทรไปหาหลายรอบก็ไม่รับ จนเดินไปเรื่อยๆ เขาก็เจอกับแทฮยอน ไม่แน่ใจว่าใช่นัมแทฮยอนหรือเปล่า เพราะแทฮยอนไม่น่าจะมาเดินกับใครได้นอกจากเขา แถมผู้ชายอีกคนยังเดินโอบไหล่ด้วย คงจะเป็นคู่รักคู่อื่น แต่จังหวะที่พวกเขาหันข้างไปคุยกัน มินโฮก็รู้ทันทีว่านั่นคือแทฮยอน

            มินโฮเดินดุ่มๆ เข้าไปแยกทั้งแทฮยอนและจุนฮเวออกจากกัน จากนั้นตัวเองจึงโอบไหล่แทฮยอนไว้แทนจุนฮเวที่กำลังยืนงงอยู่

            แค่เอาของไปเก็บแป๊บเดียวก็อ่อยคนได้ตั้งคนนึงแล้วเหรอวะ ไม่เห็นจะต่างอะไรจากตอนไปผับ

            “เออะ.. พี่มิโนเป็นไรเนี่ย” มินโฮไม่ฟังแทฮยอนแต่กลับมองจุนฮเวตั้งแต่หัวจรดเท้า

            “ขอโทษนะครับ คนนี้แฟนพี่” พูดออกมาด้วยเสียงนิ่งๆ

            “พี่มิโนพอได้แล้วน่า จุนฮเวกับนัมรู้จักกันนะ” มินโฮขมวดคิ้วแล้วหันมามองแทฮยอน

            “แล้วทำไมต้องเดินโอบไหล่กันด้วย เป็นอะไรกัน?” มินโฮถามเสียงนิ่งแบบที่แทฮยอนไม่เคยเห็นมาก่อน แทฮยอนได้แต่อึ้งไม่ได้พูดอะไรออกมา “พี่ถามว่าเป็นอะไรกัน?”

            “แฟนเก่า..” มินโฮกลอกตาไปมาก่อนจะมองไปที่จุนฮเวที่ยืนยิ้มอยู่

            “กูจุนฮเวครับ”

            “ฉันไม่ได้อยากรู้”

            “พี่มิโนพูดกันดีๆ หน่อยสิ จุนฮเวเขาไม่เห็นได้ทำอะไรผิดเลย”

            “ไม่ผิดเหรอ? แล้วทำไมต้องเดินโอบไหล่กัน พี่เป็นแฟนนัมนะพี่ยังไม่ได้ทำเลย ผิดไหมล่ะคราวนี้?” มินโฮบีบแขนแทฮยอนแน่น แต่คนตัวเล็กทำหน้าเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย นั่นมันสามารถยั่วโมโหมินโฮได้อย่างดี

            “อย่าบีบแขนพี่นัมแรงแบบนั้นสิครับ”

            “เรื่องของฉัน” มินโฮหันไปพูดกับจุนฮเวด้วยสายตาโกรธเคือง

            “ช่างเถอะจุนฮเว ไม่เห็นจะเจ็บตรงไหนเลย” แทฮยอนนิ่งกลับใส่มินโฮ ดูยังไงสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ปกติซะแล้ว มินโฮกัดริมฝีปากตัวเองแล้วบีบแขนแทฮยอนให้แรงขึ้น ส่วนแทฮยอนเองก็แอบกัดฟันตัวเองทนความเจ็บไม่ให้อีกฝ่ายรู้

            “กลับได้แล้ว” มินโฮดึงแขนแทฮยอนให้เดินตามตัวเองไปทันที

            “อ๊ะ จุนฮเวอย่าลืมโทรหาพี่นะ!” แทฮยอนแกล้งทำเป็นตะโกนใส่จุนฮเวที่ยืนยิ้มอยู่ โดยที่อีกฝ่ายก็พยักหน้าเป็นการตอบรับแล้วโบกมือลาคนเป็นพี่




            ตอนนี้ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถมานานแล้วโดยที่ยังไม่สตาร์ทรถออกไปไหนทั้งสิ้น ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมบรรยากาศในรถจนรู้สึกกดดันทั้งสองฝ่าย แต่ก็ไม่ได้มีใครพูดอะไรขึ้นมา เหมือนกับสงครามประสาทดีๆ นี่เอง แต่จู่ๆ มินโฮก็เป็นคนทำลายความเงียบแล้วพูดขึ้นมาด้วยเสียงนิ่ง

            “มันเป็นแฟนเก่าหรือเป็นกิ๊ก” แทฮยอนจิ๊ปากแรงกอดจะกอดอกแล้วนั่งไขว่ห้างหันหน้าไปทางอื่น

            “แล้วแต่คิดแล้วกัน บอกไปก็คงไม่เชื่ออยู่ดี”

            “ไอ้นิสัยอ่อยคนไปทั่วน่ะ เลิกซะนะ” พูดจบมินโฮก็สตาร์ทรออกไปทันที แทฮยอนได้แต่นั่งกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้ด้วยความเจ็บใจ เขารู้ตัวว่าเขาอ่อยคนไปทั่วก็จริง แต่คราวนี้เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย จุนฮเวเป็นแค่แฟนเก่าของเขาจริงๆ แล้วเขาก็รู้สึกเสียใจที่มินโฮชอบทำเหมือนกับไม่เคยเชื่อใจเขาเลยสักครั้ง แต่แน่นอนว่าคนอย่างแทฮยอนไม่พูดอะไรออกมาอยู่แล้ว ชอบทำตัวเป็นเด็กที่ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ขอเพียงแค่มีเงินของพ่อแม่คอยหนุนหลังก็พอ




            ติ๊งต่อง~ ติ๊งต่อง~

            จียงที่กำลังยืนทำอาหารอยู่เดินออกไปเปิดประตูให้แฟนของตัวเองเข้ามาตามที่เขาโทรนัดไว้ เพราะวันนี้เป็นวันที่ดันอาต้องไปทำงานที่บ้านเพื่อน แถมมินโฮยังไปอยู่กับแทฮยอนตั้งสองอาทิตย์แล้วคงไม่น่ากลับมา จึงเหมาะเจาะต่อการนัดเจอกัน

            “ทำอะไรกินน่ะ? หอมจัง”

            “บิบิมบับไง หอมมากเลยใช่ไหมล่ะ?”

            “เปล่า ที่บอกว่าหอมน่ะคนนี้ต่างหาก” พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มอีกคนฟอดใหญ่ “ทำงานมาเหนื่อยๆ แล้วมาเจอคนน่ารักแบบนี้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ”

            “จริงเหรอ?” จียงยิ้มเขินๆ ก่อนจะจูงมืออีกคนเข้ามาในบ้าน “นั่งรอเฉยๆ นะ รออีกสิบนาทีเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” จียงถอดเสื้อคลุมให้อีกคนแล้วเอาไปแขวนไว้ที่ราวจากนั้นจึงเดินเข้าไปทำอาหารต่อในห้องครัว ส่วนซึงฮยอนที่นั่งรออยู่ที่โซฟาก็เปิดโทรทัศน์ดูอะไรไปเรื่อย ช่วงนี้เขามาหาจียงบ่อยขึ้นเพราะมินโฮไม่อยู่บ้านและดันอาไปทำงานที่บ้านเพื่อน หรือบางทีก็ไปอยู่เฉยๆ เป็นไปได้เขาก็อยากจะมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ตลอดเวลาเลย

            ชเวซึงฮยอนเป็นผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่ง เขาเป็นคนดีและตั้งใจทำงานมาก เขารู้สึกชอบจียงตั้งแต่เข้ามาทำงานใหม่ๆ รู้สึกว่าเด็กฝึกงานที่ทำอะไรเงอะๆ งะๆ แบบจียงนี่น่ารัก แต่พอนานไปเขาก็เริ่มชำนาญเรื่องงานของเขา ดูเป็นคนขยันและอารมณ์ดี แม้จะมีบางมุมดูเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อายบ้าง แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้ชายคนนี้ แต่ก็มารู้ทีหลังว่าจียงมีภรรยาและลูกแล้วถึงสองคน ซึ่งตอนนั้นมินโฮยังอยู่เพียงมัธยมปลาย ส่วนดันอาอยู่มัธยมต้น




            “ดูซึมๆ นะเป็นอะไรรึเปล่า?” ซึงฮยอนเดินเข้ามาพร้อมกับกาแฟกระป๋องทำลายความเงียบ จียงที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงทางหนีไฟหันมามองที่ต้นเสียงแล้วก้มหัวให้เล็กน้อยเป็นการเคารพ ซึงฮยอนโยนกระป๋องกาแฟให้กับจียง “เล่าให้ฉันฟังได้นะ” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นจียงค่อยข้างโทรมและสูบบุหรี่

            “...”

            “นายสูบบุหรี่มานานเท่าไหร่แล้ว?” จียงเอาบุหรี่ออกจากปากก่อนจะพ่นควันออกมา

            “นานแล้วครับ ก็มักจะสูบเฉพาะตอนรู้สึกไม่ดี คุณซึงฮยอนจะเอาหน่อยไหม?” จียงทำท่าจะหยิบบุหรี่ออกมาจากซอง ซึงฮยอนส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเปิดกระป๋องกาแฟในมือตัวเองแล้วยกดื่ม

            “ไม่ล่ะ อ๋อ ถ้าไม่รังเกียจเรียกฉันว่าท็อปก็ได้นะ”

            “เอ่อ... โอเคครับ ทำไมถึงเรียกว่าท็อปล่ะครับ?”

            “มันเป็นชื่อที่เพื่อนๆ เรียกฉันเมื่อสมัยเรียนน่ะ ฉันชอบชื่อนี้นะ” จียงพยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบรับ “อันที่จริง...ฉันก็เคยสูบบุหรี่มาก่อนนะ”

            “ทำไมถึงเลิกล่ะครับ?”

            “ฉันก็เพิ่งมาเลิกนี่แหละ แต่คิดว่าถ้าคนๆ นึงรู้ว่าฉันสูบบุหรี่คงไม่ชอบฉันแน่ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดน่ะสิ เธอคนนั้นก็สูบบุหรี่ แต่ฉันก็ไม่คิดจะกลับไปสูบหรอกนะ”

            “ดีแล้วแหละครับ ผมก็ไม่ได้อยากจะสูบเท่าไหร่ อันที่จริงอยากเลิกเลยแหละครับ แต่มันเครียดไม่ไหวจริงๆ”

            “ลูกๆ ของนายไม่รู้เหรอว่านายสูบบุหรี่ด้วย” จียงส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่อีกมวนขึ้นมาคาบไว้ที่ปากแล้วเอาไฟแช็กขึ้นมาจุด แต่ซึงฮยอนก็ดึงมันออกมาจากปากอีกฝ่ายเสียก่อน “ต่อไปนี้มีอะไรมาเล่าให้ฉันฟังก็ได้ ไม่ต้องสูบบุหรี่อีกแล้ว อยากเลิกไม่ใช่เหรอ?” ซึงฮยอนคว้ากล่องบุหรี่ในมือของจียงมาก่อนจะโยนมันลงไปจากระเบียงของทางหนีไฟพร้อมๆ กับบุหรี่อีกมวน จากนั้นจึงหันมายิ้มบางๆ ให้กับจียง มันทำให้ร่างบางรู้สึกอบอุ่นหัวใจ และไว้ใจคนๆ นี้แปลกๆ

            “ผม...เลิกกับภรรยาครับ” พูดจบน้ำใสๆ ก็ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย




            “ย๊า!”

            “ห้ะ?”

            “เหม่อลอยอะไร? บิบิมบับเสร็จแล้วนะ” ซึงฮยอนตื่นจากภวังค์แล้วหันมาให้ความสนใจกับคนตรงหน้า

            “เปล่า ก็แค่นึกถึงอนาคตของเราสองคนไปเรื่อย” พูดจบก็ยิ้มกริ่มมองอีกคนที่นั่งเขินหน้าแดงอยู่

            “บ้า กินๆ ไปเลย”

            “ป้อนหน่อยดิ”

            “กินเองก็เป็นนี่” จียงกัดริมฝีปากตัวเองด้วความเขิน

            “น่านะ คำสองคำก็ได้ พี่จะได้มีแรงไงคืนนี้” จียงยื่นมือไปตบเหม่งอีกคนเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ตักบิบิมบับขึ้นมาป้อนอีกคน




            “ทำไมมาจอดที่นี่”

            “วันนี้พี่จะนอนที่บ้าน ขับรถกลับไปเองแล้วกัน” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับมามินโฮก็เปิดประตูรถลงไปทันที แทฮยอนที่นั่งอยู่ในรถอ้าปากค้างมองอีกคนที่กำลังเดินจากไปแล้วกำมือตัวเองเอาไว้แน่น

            “ได้... อยากเข้าใจผิดนักใช่ไหม?” พูดออกมาด้วยความโกรธก่อนจะลงจากที่นั่งของตัวเองแล้วย้ายไปที่นั่งคนขับจากนั้นจึงขับรถออกไปทันทีโดนไม่คิดจะง้ออีกคน


            มินโฮหยิบกุญแจบ้านออกมาแล้วไขกุญแจด้วยอารมณ์โกรธเคือง ตั้งแต่เจอหน้าเด็กจุนฮเวนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมาก ยิ่งรู้ว่าเป็นแฟนเก่าของแทฮยอนของแทฮยอนก็ยิ่งไม่พอใจ

            แฟนเก่าหรือกำลังจะเป็นผัวใหม่กันแน่ เหอะ

            เมื่อมินโฮเดินฟึดฟัดเข้าไปในบ้านก็เจอคนเป็นพ่อของตัวเองกำลังป้อนอาหารให้กับผู้ชายท่าทางภูมิฐานดีคนหนึ่ง ที่ตัวเองไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นมาก่อน มินโฮยืนค้างมองภาพตรงหน้า พอดีกับที่จียงหันมาเห็นคนเป็นลูกยืนมองดูตัวเองด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขารีบวางช้อนซ้อมลงทันที

            “ทะ ทำไมวันนี้ถึงกลับมาบ้านล่ะ?” จียงพูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก ส่วนซึงฮยอนที่หันไปเห็นมินโฮยืนอยู่ก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน

            “คนนี้เขาเป็นใครเหรอครับ?”

            “เอ่อ...”

            “ผมถาม”

            “เป็น..เป็นเพื่อนป๊าเอง” จียงยิ้มแห้งๆ ก่อนจะดึงซึงฮยอนเข้ามากอดคอให้ดูเหมือนเพื่อนกันจริงๆ “คนนี้เพื่อนที่ทำงานของป๊าเอง ชื่อชเวซึงฮยอน เราสนิทกันมากเลย วันนี้ก็เลยนัดมาคุยงานที่บ้านแล้วก็ทำอะไรกินกันนิดหน่อย แล้วก็...” ซึงฮยอนที่นั่งข้างๆ ตบขาจียงเบาๆ ให้หยุดพูดก่อนที่จะมีพิรุจไปมากกว่านี้

            “เป็นเพื่อนแล้วทำไมต้องป้อนข้าวกัน?”

            “คือ...”

            “โกหก” มินโฮกัดริมฝีปากตัวเองแน่นก่อนจะเดินเสียงดังขึ้นไปบนห้อง จียงที่ได้ยินถึงกับหน้าชาเพราะไม่เคยเห็นลูกตัวเองเป็นแบบนี้มาก่อน ร่างบางลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตามลูกชายตัวเองขึ้นไปบนบ้าน ส่วนซึงฮยอนเองก็ตามไปดูเงียบๆ

            “มิโน คือ...ออกมาจากห้องก่อนได้ไหม? ฟังป๊าก่อน” จียงเคาะประตูรัวๆ แต่มินโฮที่อยู่ในห้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิด จากนั้นจึงเปลี่ยนไปทุบประตูเสียงดัง “มิโน! เปิดหน่อย.. ฟังป๊าก่อน” เมื่อจียงทำท่าเหมือนจะร้องไห้ซึงฮยอนจึงเข้ามาโอบไว้

            “ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวไปก่อน เขาอาจจะเจอเรื่องไม่ดีมาก็ได้”

            ในอีกทางหนึ่งมินโฮก็นอนแผ่อยู่บนเตียงพยายามทำใจจิตใจของตัวเองสงบลง เพราะปกติแล้วเขาไม่เคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ เมื่อทำยังไงก็สงบสติอารมณ์ไม่ได้จึงเปิดลิ้นชักหาซองบุหรี่ที่อยู่ในนั้น เขาหยิบมันออกมาก่อนจะเปิดหน้าตาห้องแล้วสูบมัน




            “ฮัลโหล พี่เป็นไงมั่ง”

            “ไม่ได้เป็นไรนี่ พี่มิโนเขากลับไปนอนที่บ้านน่ะ” แทฮยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจึงมานั่งคุยโทรศัพท์กับจุนฮเวบนเตียง สังเกตที่แขนตัวเองมีรอยแดงเป็นรอยมือของมินโฮไว้ยังไม่หาย แถมยังแดงอยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะจาง “พี่ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลยอ่ะ”

            “ให้ผมไปหาที่คอนโดฯ ไหม?”

            “ดึกแล้วนะ”

            “งั้นพรุ่งนี้เช้าผมขอออกไปหาได้ปะ?”

            “แล้วแต่ดิ ไม่เรียนเหรอ?”

            “ก็โดดเหมือนเดิมแหละ”

            “จะเรียนจบมัธยมอยู่แล้วหัดตั้งใจซะมั่งสิ นี่รู้ไหมว่าก่อนที่ฉันจะเรียนจบมัธยมต้องอ่าหนังสือแทบตายแค่ไหนกว่าจะสอบเข้ามหาลัยน่าเบื่อนี่ได้น่ะ แทฮยอนบ่นให้จุนฮเวฟัง ต้นสายแอบขำออกมาเบาๆ ให้อีกคน “แต่เอาเถอะ ฉันไม่บังคับหรอก รีบๆ มาแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันก็ไม่อยากไปมหาลัยเหมือนกัน

            “โอเคพี่ ฝันดีนะ”

            “อือ นายก็เหมือนกันนะ เจอกันพรุ่งนี้” แทฮยอนกดวางสายจุนฮเวก่อนจะนอนแผ่ไปกับเตียง

            วันนี้มินโฮไม่ได้มานอนกับเขาเพราะเข้าใจผิดเรื่องจุนฮเว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

            “เตียงว่างๆ แฮะ” ทั้งๆ ที่ผ่านมาก็นอนบนเตียงนี่คนเดียวมาตลอด แค่มินโฮมานอนด้วยแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็ทำให้แทฮยอนรู้สึกว่าข้างๆ เขามันรู้สึกว่างๆ ยังไงชอบกล พลางนึกไปเรื่อยจนถึงตอนที่ยังคบกับจุนฮเว เด็กคนนั้นก็ชอบมานอนกอดเขาบนเตียงนี้บ่อยๆ เช่นกัน

            เหตุผลที่แทฮยอนเลิกกับจุนฮเวนั่นก็เพราะช่วงนั้นแทฮยอนกำลังพยายามเตรียมตัวเพื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เขากำลังเรียนอยู่ทุกวันนี้ แถมจุนฮเวก็เอาเวลาที่ควรจะอยู่กับแทฮยอนไปเถลไถลกับเพื่อนฝูงเช่นกัน ดังนั้นแทฮยอนจึงขอเลิกกับจุนฮเว ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทางเสียใจหรืออะไร ทั้งสองคนจึงจากกันด้วยดี หลังจากนั้นก็ติดต่อกันบ้างจนแทฮยอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้จึงไม่ได้ติดต่อกันอีกหลายเดือน

            ถึงแม้จุนฮเวจะรู้ว่าคนอย่างนัมแทฮยอนขี้อ่อยแค่ไหนเขาก็ไม่ได้โกรธหรืออยากจะบอกเลิกรุ่นพี่คนนี้เลย เขารู้ดีว่าแทฮยอนเป็นคนยังไง ถึงจะแสดงออกมาแต่ด้านมืด แต่อีกด้านหนึ่งของแทฮยอนนั้นน่ารักมาก ถ้าใครได้เห็นเป็นก็ต้องหลงทั้งนั้น แน่นอนว่ารวมถึงกูจุนฮเวด้วย




- t a l k -
"พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรหนอ..."
อิอิ ลุ้นป่ะ ? ไม่สินะ55555555555555555555
แอ๊ะแอ๋ ไม่มีเอ็นซีอ่ะแก ขอท่ด -..- คือนี่อ่ะ เป็นคนนึงนะ
ที่ค่อยข้าง ok กับ กูนัม เลย โง้ย นี่ไม่ได้จะชงคู่นี้นะ แค่อยากให้จุนเน่เข้ามามีส่วนร่วม..
ใครที่ชอบหรือมีความเห็นไรก็ใช้แท็ก #ฟิคใต้ดินนซ ด้วยนาจา.. 
ระวังไรท์เตอร์ไม่มีกำลังใจแต่งฟิคเด้อเตือนไว้ก่อน.






{ Tags: namsong, yoonwoo, hoonwoo, winner, jinwoo, taehyun,
minho, mino, seungyoon, seunghoon, nc, 20, fiction, fanfic, rate r,
เอ็นซี, นัมซง, ฮุนอู, ยุนอู, 3P. subterranean, ใต้ดิน, ฟิคใต้ดิน }

No comments:

Post a Comment